แบล็คแจ็คถือเป็นเกมไพ่เก่าแก่และได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แม้ว่าความสนุกของมันจะไม่เท่าเกมอย่างเสือมังกรหรือบาคาร่า เนื่องจากเป็นเกมที่ต้องใช้เวลาในการเล่นแต่ละเกม ซึ่งไม่ถูกจริตนักพนันที่ส่วนใหญ่ชอบเกมที่รู้ผลเร็ว ๆ แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบการเล่นแบล็คแจ็คมากกว่า ศิลปะในการเล่นแบล็คแจ็ค เกมคาดการณ์ไพ่ที่ออกและไพ่ที่เหลือ                 บนโต๊ะแบล็คแจ็คที่มีทั้งแบบเล่นคนเดียวเผชิญหน้ากับดีลเลอร์หรือเจ้ามือโดยตัวต่อตัว และแบบเล่นพร้อมกันหลายคนถือเป็นเกมแห่งศิลปะในการจดจำแผนการเล่น                 เมื่อผู้เล่นได้รับไพ่มา ไม่เพียงแต่จะต้องพิจารณาไพ่ในมือเท่านั้น จำเป็นต้องอ่านความเป็นไปได้ของไพ่ที่หงายอยู่ของดีลเลอร์และไพ่ที่ผู้เล่นรายอื่นถืออยู่เช่นกัน เพราะลักษณะของหน้าไพ่จะบอกให้รู้ถึงจำนวนของไพ่ที่ออกไปแล้วและที่ยังอยู่ในกองว่ายังเหลืออะไรมากน้อยเท่าไหร่ โอกาสที่จะจั่วแล้วได้ไพ่ที่ต้องการอยู่ที่เท่าไหร่                 แม้ว่าการจำไพ่หรือนับไพ่ (Card Counting) จะเป็นเรื่องที่ทางคาสิโนพยายามจับสังเกตมากที่สุด แต่มันก็ไม่ได้เป็นความผิด โดยที่ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องจดจำไพ่ทั้งหมดว่าเป็นไพ่อะไร เพียงแค่คิดว่าไพ่ใบต่อไปมีแนวโน้มออกอะไร ก็ช่วยในการตัดสินใจได้มากแล้ว การพัฒนาตัวเองในการเล่นแบล็คแจ็คให้สามารถเอาชนะได้                 การเล่นแบล็คแจ็คนั้นมีหลักเกณฑ์ง่าย ๆ คือแต้มเป็น 21 หรือเข้าใกล้ 21 มากกว่าแต้มในมือดีลเลอร์ถือว่าเป็นผู้ชนะ วิธีการเล่นคือการได้รับแจกไพ่มา 2 ใบในขณะที่เจ้ามือหรือดีลเลอร์จะหงายไพ่ 1 ใบ ผู้เล่นมีสิทธิ์เลือกที่จะหยุด, จั่ว, จั่วไปเรื่อย ๆ , หรือแยกไพ่ก็ได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ไพ่ในมืออยู่ใกล้ 21 มากกว่าดีลเลอร์ ถ้าหากแต้มสรุปแล้วน้อยกว่าดีลเลอร์ถือว่าแพ้ ถ้าแต้มเกิน 21 ก็ถือว่าแพ้ จึงเห็นได้ว่าการเล่นไพ่แบล็คแจ็คนั้น ผู้เล่นเป็นคนที่มีบทบาทต่อการเล่นหรือไม่เล่น